เกร็ดความรู้ ตลับพระ เลี่ยมพระ โดยฟ้า ท่าพระจันทร์
ชาวพุทธทุกท่าน หรือ ผู้ที่มีจิตศรัทธา คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ไม่รู้จักพระเครื่อง พระบูชา เนื่องด้วยกระแสความนิยมอันไม่เสื่อมคลายจากทั้งในประเทศไทย ไปจนถึงต่างประเทศทั้ง จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ข้อมูลจากศุนย์วิจัยกสิกรล่าสุดยังสำรวจพบว่า ในปัจจุบันมีคนเล่นพระและสะสมพระมากกว่าสิบล้านคนเข้าไปแล้ว และยังคงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยความนิยมนี้เอง ผู้รักพระและสะสมพระหลายๆท่าน จึงต้องการจะยกระดับในตัวพระเครื่อง นำไปส่วมใส่กับสร้อยคอที่ห้อยกรอบพระ เพื่อเป็นความสมบูรณ์สูงสุดของการบูชาพระ ปัจจุบันมีความนิยมเป็นอย่างมากในการนำพระเครื่องมาเลี่ยมและห้อยคอ เพื่อเป็นสิริมงคล เสริมบารมี ให้คุณค่าทางจิตใจ
ทั้งนี้ การนำพระมาห้อยคอ หรือ เก็บไว้บูชานั้น นอกจากเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต่างจิตต่างใจ ต่างรสนิยมแล้ว ก็ยังจำเป็นที่จะต้องเลี่ยมให้เหมาะสมกับองค์พระ หรือพระเครื่องที่มีรูปแบบมากมายหลายร้อยหลายพันชนิดอีกด้วยเพราะมิใช่ว่าการเลี่ยมพระแบบเดียวกัน จะช่วยให้พระทุกชนิดทุกพิมพ์สวยเหมือนกันได้หมด เปรียบไปก็เหมือนกับการเลือกซื้อเสื้อผ้า รูปร่างของผู้สวมใส่ที่แตกต่างกันไปก็จำเป็นต้องเลือกแบบเสื้อผ้าใช้สมกับผู้สวมใส่ด้วย ทั้งชุดและผู้สวมใส่จึงจะดูดีและไปด้วยกันได้
ร้านฟ้า ท่าพระจันทร์ และชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ จึงขอใช้โอกาสนี้แนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ ตลับพระ กรอบพระ เลี่ยมพระ ในรูปแบบต่างๆจากทางร้านฟ้า ท่าพระจันทร์ ที่มีการออกแบบวิจิตรบรรจงในฝีมือและสะท้อนเอกลักษณ์แห่งความเป็นไทย และกรอบพระยังช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับองค์พระเครื่องได้เป็นอย่างดี ทำให้ท่านเก็บรักษาพระเครื่องอันล้ำค่าให้แก่รุ่นลูกหลานต่อไป
ตลับพระ
เริ่มตั้งแต่สมัยโบราณคำว่าตลับในที่นี้หมายถึง “ภาชนะอย่างหนึ่งซึ่ง มีฝาปิด สบกันได้สนิทกับตัวภาชนะ” ด้วยไอเดียของตลับในสมัยก่อนนี้เอง จึงเกิดมีช่างฝีมือ นำเอาตลับมาใช้เพื่อบรรจุเครื่องรางของขลัง รวมถึงพระเครื่อง ต่อมาเริ่มมีการเจาะฝาตลับทั้งทางด้านหน้าและหลัง เพื่อโชว์ของที่อยู่ด้านใน และมีการพัฒนามาเป็นตลับในรูปแบบที่เข้ารูปสวยงามพอดีกับองค์พระดั่งที่ท่านทั้งหลายเห็นกันในปัจจุบัน “ตลับพระ” นั้น ผู้ใช้สามารถจะเปิดปิดได้เองโดยจะมีการเพิ่มเดือยเล็กๆเพื่อเป็นการยึดฝาทั้งสองด้าน และจะมีการเชื่อมหูกลมๆ เพื่อห้อยห่วงสำหรับแขวนและพกพา โดยทั่วไปตลับพระจะไม่สามารถที่จะกันน้ำได้ 100% จะมีการเสริมฟองน้ำแผ่นบางๆ รอบองค์พระเพื่อให้พระไม่เคลื่อนที่ แต่มีข้อดีคือสามารถถอดเปลี่ยนเข้าออกได้ง่าย สำหรับวัสดุที่นิยมนำมาทำตลับนั้น ก็สามารถแบ่งออกได้หลักๆเป็นดังนี้
1.ตลับเงิน ตลับพระเงินแท้นั้น มีราคาถูกกว่าทองคำมาก แต่คงไว้ด้วยความหรูหรา เรียบง่าย ด้วยโลหะเงินมีคุณสมบัติที่สามารถนำมาขึ้นรูป แกะลายได้ตามที่ต้องการ และยังที่มีค่าอยู่ตลอดตามกาลเวลา มีราคาตามน้ำหนักเหมือนทองคำ สามารถนำไปขายกับร้านรับซื้อ หรือ ผู้ที่รักและสนใจพระเครื่องได้
2.ตลับทองเหลือง เครื่องประดับทองเหลือง เกิดจากการผสมของโลหะทองแดง และสังกะสี ถือได้ว่าเป็นที่นิยม ไม่แพ้ ทองคำ และ เงิน โดยปกติสภาพของทองเหลืองที่เป็นสีมันวาวจะคงอยู่ได้เฉพาะงานที่มีการเคลือบผิวอย่างเหมาะสม ในการนำทองเหลืองมาใช้ทำตลับพระนั้นจึงมีความนิยมนำมาชุบด้วยโลหะเงิน หรือ ทอง ซึ่งในส่วนโลหะที่นำมาชุบ สีสันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และการใช้งาน แต่ตัวโลหะทองเหลืองเองนั้นจะยังคงสภาพ ไม่เสียคุณสมบัติ สามารถนำมาหมุนเวียน ชุบใหม่ กลับมาใช้งานได้อีกดั่งเดิม ทองเหลืองจึงเป็นโลหะที่มีความนิยมเป็นอย่างมากในงานศิลป์โดยทั่วไป
3. ตลับสแตนเลส โลหะสแตนเลสนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ “เหล็กกล้าไร้สนิม” มีความคงทนแข็งแรงสูงมาก เหมาะกับการนำมาเชื่อม และขึ้นรูป ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เอง ตลับสแตนเลส จึงเป็นที่นิยมในวงกว้างของงานกรอบพระตลับพระโดยทั่วไป ตลับสแตนเลสยังถือได้ว่าเป็นวัสดุที่มีราคาย่อมเยาที่สุดของงานตลับพระเลยอีกด้วย แต่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้งาน และป้องกันพระเครื่องของท่านได้เป็นอย่างดี
งานเลี่ยมพระ
ในการนำพระเครื่องมาบูชา หรือ แขวนห้อยคอนั้น ในหลายๆโอกาส ผู้ที่บูชาและใช้งานอาจจะหลีกเลี่ยงไมได้ที่พระเครื่องที่ติดกับตัวของท่านอาจจะต้องเจอกับ สภาพอากาศ การใช้งาน ความชื้น ซึ่งอาจจะส่งผลถึงผิวหรือสภาพขององค์พระซึ่งอาจจะสึกกร่อนเสียหาย จึงมีความนิยมที่จะนำพระเครื่องมาเลี่ยมอัดพลาสติกกันน้ำ ก่อนที่จะนำไปใส่ตลับหรือกรอบโลหะชนิดต่างๆ งานเลี่ยมที่เป็นที่นิยมสามารถแบ่งได้ 3 แบบดังนี้
1. 1. เลี่ยมกรอบพระเข้าตลับ งานเลี่ยมอัดกันน้ำเข้าตลับนั้น ท่านสามารถเลือกได้ว่าต้องการตลับชนิดไหนแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น เงิน ทองเหลือง หรือ สแตนเลส ขั้นตอนเบื้องต้นก็คือจะต้องนำองค์พระมาอัดกรอบพลาสติกกันน้ำก่อน แล้วบรรจุลงไปตลับที่มีการถอดส่วนพลาสติกฝาหน้า-หลังออกแล้วข้อดีที่เป็นที่นิยมในงานแบบนี้คือ กรอบของท่านสามารถจะกันน้ำได้เรียกว่าแทบจะ 100% และยังคงความสวยงามวิจิตรในแง่ของการใช้งานได้เป็นอย่างดี
1. 2. เลี่ยมกรอบพระจับขอบ การเลี่ยมแบบจับขอบก็คือการเลี่ยมที่เปิดให้เห็นทั้งด้านหน้าและทางหลังพระทั้งแบบที่มีพลาสติกใสอยู่ทั้งหน้าและหลัง ที่มาของการเรียกว่า"จับขอบ"นั้น เนื่องจากเมื่อเราพิจารณาดูดี ๆ ก็จะเหมือนการทำกรอบพระเฉพาะขอบโดยรอบ หรือ "จับ" เฉพาะ "ขอบ" นั่นเอง ข้อดีของงานเลี่ยมแบบจับขอบคือสามารถมองเห็นองค์พระได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั่นเองวิธีการก็คือนำองค์พระมาอัดกรอบพลาสติกกันน้ำ แล้วรีดพับเนื้อโลหะส่วนของตัวเรือนหลัก ไปเกาะ หรือจับ ชิ้นปิดท้ายไม่ให้หลุดงานเลี่ยมจับขอบนี้ โดยทั่วไปจะมีราคาสูงเนื่องจากต้องใช้ ทอง หรือ เงิน เปอร์เซ็นต์สูงมากเท่านั้น ที่จะมีความนิ่มสามารถพับเนื้อโลหะไปทับได้
3. เลี่ยมเปลือย การเลี่ยมแบบเปลือย เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากขึ้นในช่วงหลัง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน และชาวต่างชาติ ลักษณะการเลี่ยมแบบนี้จะใช้แผ่นเงินแท้ ที่ต้องออกแบบและตัดมาเป็นพิเศษให้พอดีกับตัวองค์พระและชิ้นงานเท่านั้น เหมาะกับการเลี่ยมกับเครื่องรางที่มีรูปร่างเฉพาะตัวเช่น เขาแกะ งาแกะสลัก กุมาร ปลัดขิก เขี้ยวเสือ สิงห์ หยก อัญมณีต่างๆ งานที่ได้จะออกมาในลักษณะคล้ายกระเช้า นำไปห้อยบูชาได้สะดวก
เรียบเรียงโดย ฟ้า ท่าพระจันทร์
ร้านฟ้า ท่าพระจันทร์ ชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์
โทร 02-2252705 หรือ 081-4462621
ไลน์ @fahthaprachan
www.facebook.com/fahthaprachan
หน้าที่เข้าชม | 2,622,946 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 991,170 ครั้ง |
เปิดร้าน | 16 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |